Wednesday, October 30, 2013

คุยเรื่องการจัดทำ บทเรียน การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาต่างๆ สนุกๆ ครับ

สวัสดีครับ

  แฟนๆ บทความของผมคงได้เห็น คลิปบทเรียน ภาษาไพธอน ของผมกันแล้วนะครับ รวมทั้งคลิปบทเรียนอื่นๆ ด้วยซึ่ง ผมนำเสนอผ่าน ช่องรายการ

   "Thailand Computer Life Hack" โดย พี่บอลล์ ครับ

  ผมเชื่อว่า มีหลายท่านอยากรู้ว่า ผมใช้อุปกรณ์อะไรในการอัดรายการบ้าง จริงๆ แล้วไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนเลย ที่ผมมาเขียนบอกไว้นี่ก็เพราะ เผื่อท่านทั้งหลาย อาจจะ มันมือ อยากจะลองทำรายการบน Youtube.com กันบ้าง จะได้ ศึกษาไว้เป็นแนวทางครับ

  อุปกรณ์ในการจัดทำรายการ มีดังนี้

1.กล้องวิดีโอ 1 ตัว คุณภาพดีหน่อย ครับ

     ผมคิดว่า ตอนนี้กล้อง ดิจิตอลส่วนมากมี Mode วิดีโอกันหมดแล้ว คุณภาพก็พอรับได้ สามารถใช้ได้ครับ ไม่ต้องไปรอซื้อของแำพงๆ จนหมดโอกาส สร้างอะไรดีๆ
กันไป เพียงแต่ เรื่องความไวแสง คุณภาพของภาพ อาจจะอัดรายการกัน ในกลางวันจะดีกว่ากลางคืนเพราะแสงจากภายนอกช่วยให้ภาพของคุณ ชัดขึ้นได้
   
    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรา อัฟโหลดขึ้น Youtube ไปแล้ว เขามีตัวตัดต่อให้เสร็จครับ เราไปเติมแสง สี เอาทีหลังได้ ก็ช่วยผมไว้หลายคลิป เพราะขนาดกล้องดีๆ แสงไม่ค่อยพอ อัดตอนดึกๆ ก็จัดแสงเสียใหม่ ชัดเลยครับ

2. มุมมองต่อตัวเราเอง
 
    คลิปน่ะอยู่ไปอีกนาน ผมอัดไป สักพักก็ไปโกนหนวดเคราให้เรียบร้อย จะดูดีกว่าครับ แต่สไตล์ใครสไตล์มัน ตอนนั้นมันยาวเกินครับ เลยโกนออก ผมเผ้าก็หวีให้ดีๆ ครับ แต่งตัวให้ดู สุภาพ ก็่น่าจะผ่านแล้ว

3. คุณภาพเสียง
    อันนี้ ต้องซ้อมอย่างเีดียว ของผมคลิปแรก ๆ ผมซ้อม ทั้งดูมุมกล้อง เสียง และการไหลลื่นของรายการตั้ง 4-5 รอบ ครับ จนมารู้ว่ากล้องเรามันดีเกิน ไมค์ไวเสียงมาก ฮา ก็ลองซ้อมหน่อยก็ดีครับ

4.แบตเตอรี

   ไม่อยากอัดรายการเสียเวลาฟรี ต้องดู 2 อย่าง อย่างแรก ไฟจะหมดหรือยัง อย่างที่สอง กด Record จนเห็น รูปวงแดงหรือยัง หากไม่เห็น ก็อัดฟรีครับ ระวังๆ

5.กล้องควรนิ่ง

    ผมเล่นกล้องครับเลยสบายไป เพราะขาตั้งกล้อง ไตรพ็อด มีพร้อมครับ จะปรับมุม หมุนซ้ายขวา ก็นิ่งมาก สุดยอดครับ ลงทุนหน่อย

6. ซ้อมประเด็นหลักก่อนอัดรายการ

    อาจจะเห็นว่าผมก็พูด อย่างใน ช่วง Thailand Computer Chronicles ไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้มีสคริปต์ แต่สคริปต์ อยู่ในความจำครับ คือ วางแนวทางไว้ก่อนว่าจะพูดอะไร เน้นอะไร พอพูดไปก็เอาประสบการณ์
กับ สคริปต์ในศรีษะ มาประสานกันครับ จะทำให้ อัดผ่านได้ง่ายๆ

7.เอาจริง

     คือต้องรักจะทำมันครับ หยุดพักได้ นานได้ แต่ต้องกลับมาครับ เขาเรียกว่า มี คอมมิทเม้นต์ ข้อผูกพันของตัวเองว่า ตรูข้าจะทำให้ได้ ทำให้ดี รักจะทำ ครับ ของแบบนี้จึงจะเกิดขึ้นได้ อย่างวิชาการเขียนโปรแกรม 1 ภาษานี่ หากใครเรียนมาก็รู้ว่า มีเวลาคนละเทอม ราวๆ 4 เดือน ยังอ่านกันไม่หมดนะครับ นั่นแค่อ่าน แต่นี่ทำรายการ คนละอย่างกันเลย ต้องมีความตั้งใจ และ ใส่ใจครับ

8.ใจสบายจึงทำ

    คือ เน้นตอนเราสมองโล่งหน่อยครับ ความรู้ดีๆ จะได้ออกมามากๆ ครับผม

9.ใช้ลูกเล่นใน Youtube เสริมค่าของคลิปบทเรียน

     ลูกเล่นพวกนี้ Advanced และ ยังดูดี เช่นการขึ้นหมายเหตุ เป็นอักษรข้อความอธิบาย ในบางจุด บางประเด็น แล้วสักพักก็หายไป และอื่นๆ เอามาใช้บ้างก็ดีครับ ใส่เพลงลงไปบ้าง ในจุดทีีเหมาะสม ก็จะทำให้ คลิปคุณดูดีขึ้น แ่ต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลักครับ

10. ความถูกต้องของความรู้

      แม้เราจะทำแบบสมัครเล่น แบบจริงจังหรือ เล่นๆ ก็ตาม ก็ขอให้ ให้ความรู้ให้ชัดเจน ถูกต้องที่สุด จุดไหนผิดพลาด ก็กลับไปแก้ไขได้ครับ

    โดยรวมแล้วผมก็ใช้แนวทาง 10 ข้อนี้ในการจักทำคลิปในรายการของผม ครับหวังว่า จะพบท่านทั้งหลาย นำเสนอความรู้ของท่านบ้าง บน Youtube นะครับ ช่วยกันสร้างคลิปความรู้ดีๆ ไว้ให้เยาวชน และ คนไทยได้อ่านกันครับ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์

Friday, October 25, 2013

สารคดี ที่เล่าเรื่อง BBS เครือข่ายอันเลื่องชื่อในอดีต ที่น่าสนใจ

สารดีน่าสนใจ เกี่ยวกับ BBS ระบบเครือข่ายที่มีมาก่อน อินเตอร์เน็ต

บันทึกย่อจาก Admin :

         จากวันเวลาในอดีตที่ BBS (ฺีBulletin Board System) ที่มีโหนดมากถึง 150,000 แห่งก่อนยุค Internet มาเป็นเหลืออยู่ใน สหรัฐหรือ อเมริกาเหนือราวๆ หลักร้อย จากความรุ่งเรืองของ สาขาหนึ่งในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ของโลก สู่การคืนกลับสู่สามัญ เราจะละทิ้งประวัติศาสตร์เหล่านี้ไปได้หรือ พบกับการรวบรวมสารคดี ดีๆ ได้ในหัวข้อนี้ครับ "BBS เครือข่ายอันเลื่องชื่อในอดีต" 
  
      หมายเหตุสำคัญ:

           ขอขอบคุณที่มาของคลิปทั้งหมด ทั้งจาก ที่มาต้นฉบับและ Youtube.com ไว้ ณ. ที่นี้

   สวัสดีครับ
คุณ บอลล์  :0)

คลิป 1.
ค้นหาและนำเสนอโดย บล็อก "เสียงจาก Admin" ครับ

คลิป 2.


คลิป 3.

                                        

คลิป 4.

                                       

คลิป 5.


คลิป 6.

                                         

คลิป 7.

                                         

คลิป 8.


หมายเหตุ: จากการค้นคว้าพบว่า มีคลิปเพียง 8 คลิปครับ 

ที่มาดังปรากฎในคลิปครับผม
ขอขอบคุณ ที่มาของคลิปมาก ๆครับ

พิเศษ: อาจฟังไม่ทัน ขอให้ กดเข้าไปดูที่ Youtube เลย จากนั้นให้  Login และ กด 
ที่ลัญลักษณ์ ที่อยู่ระหว่างแถบสีแดง ที่ผมทำไว้ให้ดูในรูปด้านล่าง 
เพืออ่านจากการถอดเสียง ครับ 
 คุณจะเข้าใจเนื้อหาอย่างน้อยแบบกว้างๆ (แม้จะถอดเสียงไม่ถูกต้อง 100%) 
ไปพร้อมๆ กับคลิปครับ Youtube.com ช่วยเราสุดๆ 
แล้วครับ :0) ในการทำลายพรมแดนทางด้่านภาษา  สวัสดีครับผม 


ศึกษาความรู้ต่อเนื่อง:

   -BBS คืออะไร ที่มา http://th.wikipedia.org     ภาษาไทย
   -ฺฺBBS คืออะไร ที่มา http://en.wikipedia.org     ภาษาอังกฤษ
   
สวัสดีครับ 
คุณบอลล์ 

เรียนรู้วงการคอมพิวเตอร์ในอดีต Fidonet คืออะไร

ติดตามลิงค์นี้ครับ

    FidoNet เครือข่าย BBS ที่เลื่องลือในอดีต

คุณบอลล์ :0)

Wednesday, October 23, 2013

Python Programming by P'Ball, Lesson 2. Input & Putput

สวัสดีครับ

   คลิปบทเรียนนี้ จะเป็นบทเรียนที่พี่จะพาน้องๆ และ ผู้สนใจในการเขียนโปรแกรม ให้ได้เริ่มเขียนโปรแกรมแรก กันจริงๆ เสียที โดยเน้นการเริ่มเขียนโปรแกรม ก่อนการจดจำรายละเอียด ปลีกย่อยที่มากจนเกินไป ซึ่งเราสามารถค่อยๆ เรียนตามมาภายหลังได้ อันจะทำให้เราเกิดความสนใจในการเขียนโปรแกรม ที่มีความต่อเนื่อง และทันเวลา ก่อนที่เราอาจจะเบื่อ ในการเรียนโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ ต่างๆ  พบกับการเรียนในบทเรียนนี้กันได้เลยครับ


สนุกกับการเรียนรู้ ภาษา Python นะครับทุกท่าน :0)

"สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดยคุณบอลล์"

 หมายเหตุ: สถานศึกษา, สถาบันการศึกษา, องค์กร และ หน่วยงานอื่นใด สามารถนำคลิปบทเรียนต่างๆ ของผม ไปใช้ในการศึกษาความรู้ตามเนื้อหาในคลิปนั้นๆ สำหรับหน่วยงานหรือบุคลากรได้ โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ  โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า ห้ามนำไป ทำประโยชน์ทางการค้าในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น 

   *** กรณีมีการนำไปใช้งานตาม หมายเหตุ ข้างต้น ขอความกรุณา 
          แจ้งให้ผมได้ทราบ ที่ psirball@hotmail.com 
          :0)

สวัสดีครับ
คุณ บอลล์ :0) 

Sunday, October 20, 2013

แวดวง Python ในระดับโลก กับ Jessica McKellar สาวน้อยไพธอน สุดยอดครับ

สวัสดีครับ

    เธอเป็น ไพธอน โปรแกรมเมอร์ ที่สามารถ และ ยังเป็นวิทยากร ที่เก่งกาจอีกด้วย ลองติดตามคลิปของเธอกันครับ



 ไม่ธรรมดานะครับสาวคนนี้

 สวัสดีครับ
พี่บอลล์ :0)
     

Python Programming by P'Ball, Lesson 1. Python Installation

สวัสดีครับ

    สำหรับคลิปนี้จะเป็นบทเรียนแรกนะครับ ในการเรียนรู้ ภาษา Python เนื้อหาของบทเรียน จะเป็นการแนะนำให้ผู้เรียน สามารถลงโปรแกรม Python (ตัวแปลภาษา) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้ และ เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเริ่มหัดเขียนโปรแกรม ในบทเรียนต่อๆไปครับ

  เชิญรับชมการสอนครับ


สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย โดยคุณบอลล์

 หมายเหตุ: สถานศึกษา, สถาบันการศึกษา, องค์กร และ หน่วยงานอื่นใด สามารถนำคลิปบทเรียนต่างๆ ของผม ไปใช้ในการศึกษาความรู้ตามเนื้อหาในคลิปนั้นๆ สำหรับหน่วยงานหรือบุคลากรได้ โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ  โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า ห้ามนำไป ทำประโยชน์ทางการค้าในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น 

   *** กรณีมีการนำไปใช้งานตาม หมายเหตุ ข้างต้น ขอความกรุณา 
          แจ้งให้ผมได้ทราบ ที่ psirball@hotmail.com 
          :0)

ขอบพระคุณครับ
คุณบอลล์ :0)  

Friday, October 18, 2013

เปิดตัว คลิป เส้นทางแห่งการเรียนรู้ กับ พี่บอลล์ ครับ สำหรับคนสนใจในการเขียนโปรแกรมและศึกษาหาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์

สวัสดีครับ

   วันนี้หลังจากทบทวนหลายรอบ ก็ตัดสินใจนำความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ และความรู้รอบด้าน เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาบันทึกไว้ในรูปแบบ ของไฟล์วีดีโอ หรือ คลิป เปิดตัวให้ชมกันได้ ใน Youtube.com ครับ ถือว่าเป็นการริเริ่มทำในแนวทาง วิทยากรสอนความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เป็นกลุ่มแรกๆ ของ ประเทศไทย บน Youtube.com ก็ว่าได้ครับ

    ก่อนอื่นผมขอแจ้งไว้ตรงไปตรงมาว่า ผมไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด ในการเขียนโปรแกรม ยังมีคนที่ เก่ง และสามารถกว่าผมอีกมากมายครับ เพราะปัจจุบัน แวดวงไอทีในไทยนั้นไม่ด้อยกว่าใครในภูมิภาค ทำให้มี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์ และ สายอาชีพใกล้เคียง ที่เก่งกว่าผมมากมาย เพียงแต่ มีข้อเดียวที่ทำให้ผมแตกต่างคือ

    ผมชอบที่จะถ่ายทอดความรู้ครับ และผมก็ทำมาหลายปี และ ค่อนข้างนานปี เพียงแต่ผ่านระบบ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การแชร์ความรู้ตามกระดานสนทนาในสมัยก่อน, การจัดทำเว็บไซต์, การเข้าโซเชียล เน็ตเวิร์ค จนไม่นานมานี้ ราวๆ 3 ปี ก็การเขียนบล็อก ที่ทำแล้วค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดี มีอยู่ 2-3 บล็อก ที่เปิดไม่นานก็มียอดคนอ่าน เกือบ 1 แสนครั้งแล้ว (ณ. ต.ค. 2556)

    ข้อมูลข้างต้นทำให้ผมได้ฉุกคิืดว่า สิ่งที่เป็นความรู้ ถ้าได้แบ่งปันออกไปจะเกิดผลกระทบ ที่ดี มากกว่า เสีย และ ยังเป็นการเพิ่งกำลังใจให้กับผู้คน ที่กำลังแสวงหาความรู้นั้นๆ อีกด้วย ผมจึงคิดว่า เมื่อเราทำในเวอร์ชั่น ตัวอักษรมีคนตอบรับเป็นจำนวนพอสมควร การทำเป็น วีดิโอ ก็ย่อมได้ผลตอบรับไม่ด้อยไปกว่ากัน และยังเข้าถึงได้ง่ายกว่า เพราะเห็นจริง ทำจริง ไปได้พร้อมๆ กันกับการสอน จึงได้ทำคลิปบทเรียนต่างๆ ขึ้นมาครับ ผมให้เวลาตัวเอง 12 เดือนจากนี้ไป เพื่อค่อยๆ สร้างบทเรียนดีๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ผ่าน 1 ปีไปแล้วก็ถือว่า ตั้งช่องทีวี บน Youtube.com นี้เสร็จล่ะ ครับ จากนั้นก็เพิ่มเนื้อหาสาระอันหลากหลายกันต่อไปเรื่อยๆ ครับ






     บทเรียนก็จะเน้นไปทางด้าน การเขียนโปรแกรม ภาษา ที่น่าสนใจ เช่น ภาษา C, C++, Python และอื่นๆ โดยพยายาม ทำให้ได้ อย่างน้อย สัปดาห์ละ 2 คลิป ต่อ ภาษา ครับ 1 ปี ก็น่าจะเกิน 100 คลิป และขอฝากไว้ให้เป็น ฐานข้อมูลความรู้ทางด้านไอที ชุดหนึ่งของไทยครับ

     ผมไม่ได้มุ่งหวังจะทำให้บทเรียน ตรงตามหลักวิชาการ 100% แต่มุ่งหวังให้ผู้เรียน มีความสุขจากการศึกษาด้วยตัวเองครับ เพื่อ มีส่วนเล็กๆ ในการช่วยพัฒนาสังคมวงการไอทีของไทย จากวันนี้ไปจนสู่อนาคตไม่มากก็น้อยครับผม

     อย่างไรก็ตามจะพยายามให้ความรู้อย่างครบถ้วน ในแต่ละภาษาครับ โดยในอนาคต ถ้ามีเวลาก็จะหมั่น Update เพิ่มในส่วนที่จำเป็น เป็นประจำครับ

 ขอให้ทุกท่านมีความสุขในเส้นทางแห่งการเรียนรู้ศาสตร์คอมพิวเตอร์ ครับ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)

Thursday, October 17, 2013

DOS ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า กับคำสั่งสนุกๆ ให้ใช้งานกันครับ

สวัสดีครับ

     ดูคลิปเลยดีกว่าครับ

     ขอบคุณครับ

คุณบอลล์
:0)

%SystemRoot% บน Windows นี่มันคืออะไรครับเฮีย ???

สวัสดีครับ

     %SystemRoot% มันก็คือ การอ้างอิง ถึง ตำแหน่งที่ ตัว Windows ตั้งอยู่จริงบนระบบนั้นๆ น่ะครับ
โดยส่วนใหญ่ จะเป็น

   c:\Windows

   ครับ

  เอาไว้ทำอะไร ก็เอาไว้รับมือกับพวก Dual-Boot นั่นเอง เช่นคนที่นึกสนุก ลง Windows ไว้ 2 ตัวขึ้นไปแบบนี้ ตัวที่ 2 อาจจะมี Windows อยู่บน Drive E:  เมื่อเราเปิดตัวที่ลงบน E: มาใช้งาน ก็ไม่มีปัญหา ทุกโปรแกรมยังเปิดใช้งานได้ ตามปกติ เพราะไม่ได้ไปอ้างไว้ว่า ต้อง c:\Windows เท่านั้น มันก็วิ่งบน E: หา Folder ชื่อ Windows แล้วไปหา ตัวโปรแกรมของมันได้เองครับ นี่ล่ะประโยชน์ของเขา

  เอ้่าเดี๋ยวไม่เห็นภาพ มาดูกันว่า เจ้า Notepad เขามีตำแหน่งแห่งนี้ใน Windows ที่ตรงไหน ตาม Path นี้เลยครับ

              %SystemRoot%\system32\notepad.exe

   ตามปกติ มันคือ c:\Windows\system32\notepad.exe นั่นล่ะ

  ตรงนี้มีข้อติงนิดหนึ่ง ไหนๆ ทำ Sys root มาแล้วน่าจะเขียนสั้นๆ ไปเลยเช่น  %sr% จะดีกว่านะผมว่า คือได้ประโยชน์กับการเขียนสคริปต์ บนวินโดว์ ที่ง่ายๆ ด้วยครับ

 เอ้าใครงงว่าไปเอา Path ของ Notepad ที่ไหน ก็ตามดูในคลิปนี้ครับ




สวัสดีครับ
คุณบอลล์
*** ความรู้น้อยๆ แต่จัดการความรู้เป็น
ก็เป็นองค์ความรู้ได้ คร้าบ :0)



Wednesday, October 16, 2013

คนธรรมดา ไม่ศึกษาเนื้อหาบางอย่างเหมือน เซียนคอม และ ในทางตรงกันข้าม

สวัสดีครับ

       เคยมีข้อสงสัย ไหมครับ ขณะที่เรายังเรียนสาย ไอที หรือ วิศวฯ คอม หรือ สายอื่นๆ ที่มีเนื้อหาวิชาคอมพิวเตอร์ เราจะเห็นเพื่อนๆ จำนวนหนึ่ง เขาจะถือหนังสือ เล่มเล็กเล่มใหญ่ ติดมือประจำ แล้วที่แปลกก็คือ หลายครั้งเป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ เดียวกัน หรือบางทีก็มีรูป สัตว์ แปลกๆ กิ้งก่า ก็มี บนหน้าปกอยู่หลายเล่ม  อันนี้ทางสายที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ

       ส่วนสายที่เรียนเป็นภาษาไทย ก็มักจะนิยมแวะเวียนร้านหนังสือ ใหญ่ๆ หน่อย เดี๋ยวก็มีหนังสือคอมพิวเตอร์เล่มใหม่มาอีกแล้ว และ อีกแล้ว

      โดยสรุปคือ เพื่อนๆ ของเราเหล่านี้ จะมีหนังสือคอมพิวเตอร์ ติดตัวตลอด มันทำอะไรของมัน ปัจจุบันก็น่าจะเป็นแบบนี้ โดยในยุคของผม เมือสมัยอินเตอร์เน็ตเข้ามาในไทยใหม่ๆ นั้น เพื่อนๆ หลายคนเป็นแบบนี้ ทำไม

    เพื่อนส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนี้ จะมีโอกาสได้เป็น Admin ของสถาบันครับ หรือ น้อยๆ ก็ ผู้ดูแลระบบตามศูนย์คอมฯ เล็กใหญ่ในสถาบัน ที่เรียน พวกนี้อ่านกันทั้งปี สักพักเห็นเปลี่ยนเล่มอีกแล้ว แรกๆ แค่นึกชม เออ มันเก่งเว้ย รู้จักศึกษาหาความรู้ นอกตำรา เพราะเนื้อหาที่เขาอ่าน ไม่มีในห้องเรียน

     ต่อมาก็ฉุกคิด อินเตอร์เน็ต เพิ่งเข้าไทย พวก Admin พวกนี้ มันสามารถสั่งหนังสือ เพื่อนำมาใช้ในการทำงานได้ แน่นอนครับ หนังสือหลายเล่ม พวกเขาได้อ่านแบบใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ จนมือพอง ในเวลาเดียวกันกับ ที่คนใน อเมริกา และ ยุโรป ได้อ่าน ออกปั๊บ อีก เดือนได้อ่าน มันสั่งหนังสือที่ห้องสมุดครับ พอมาถึงก็ยืมในนามหน่วยงาน เป็นเดือนๆ หรือ อ้างสิทธิ์ อาจารย์ยาว ทั้งปี

     หลายเล่ม ขนาดผมตามอ่าน แบบว่าล้ำหน้าเพื่อนๆ ยังมีร่องรอย ยับๆ และ ผ่านมาเป็น ปี ก็มี มันน่าไหม?

     เพื่อนๆ ผมหลายคนเห็นปกมันเป็นแบบ กิ้งก่า ลิง ม้าลาย อะไรต่อมิอะไร ก็หันหน้าหนี สาวๆ นี่ไม่อยากเข้าใกล้ หนังสือเหล่านี้ (บางคน) แต่ไอ้ปกแบบนี้ พื้นขาวๆ นี่ล่ะ แรงนักเชียว เพราะว่า มันอัดแน่นไว้ด้วย วิชาล้ำเลิศ ที่จะทำให้ ผู้อ่าน จบออกไปเป็นแกนสำคัญในการทำงาน กับระบบ UNIX หรือ Unix-like ให้กับประเทศไทย ในกาลต่อไป ซึ่งผมเชื่อว่า เพื่อนๆ เหล่านี้ของผม ทั้งพี่ น้อง ตอนนี้ รับใ้ช้ชาติ ดูแลระบบ UNIX กันเป็นแถว  แน่ใจได้อย่างไร?

      ก็สิ่งที่เขาศึกษา มันเป็นเนื้อหา ด้าน การเขียนโปรแกรม บน UNIX หรือ สคริปต์ก็มีครับ ตอนนั้น ไม่มีใครอยากไปเรียนเรื่องยากๆ แบบนี้ แต่ เพื่อนๆ ผมกลุ่มนี้เขา อ่าน และ ทำ กันเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะ มันได้เป็น Admin ของ Server สถาบัน ได้สิทธิ เต็ม 100% เด็กอมมือที่ไหนก็รู้ว่า ต้องลองวิชากันใ้ห้กระจายครับ

      ขณะที่ผมและเพื่อนส่วนใหญ่ อยู่วงนอก ได้อย่างมากก็...มึงเพื่อนกู เอา โควต้า ไปเพิ่ม เท่านั้นเท่านี้ แต่ไม่ได้ เล่น สิ่งที่เรียกว่า CGI เลย CGI ก็คือ การทำเว็บให้เป็น อินเตอร์แอ็คทีฟนี่ล่ะครับ คือเขียน สคริปต์ ให้ รับข้อมูล User แล้วเอาไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลแล้วเรียกออกมาใช้ได้ มันคือ อะไรที่สมัยนี้ลองที่ไหนก็ได้ ตอนนี้ ง่ายกว่ายุคผมมากๆ

    ไอ้การที่ การเข้าถึง Server ได้ต่างกัน ทำให้คนที่เป็น Admin คือ อยู่ในตำแหน่งประกันเงินเดือนและรายได้ ฐานะในวงการอินเตอร์เน็ตไทย เป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ก่อนจบ ถ้าไม่ใช่ เป็น Admin ขี้เกียจรับรองรุ่งแน่ๆ เพื่อนผมบางคน เป็นถึงระดับสูงๆ ในธนาคารบางธนาคารด้วยซ้ำไปครับ

    เพราะคนกลุ่มนี้คือ ชุดแรก ของประเทศ ไม่อยากจ้างฝรั่ง ก็ต้องคนกลุ่มนี้ครับ  ก็ยินดีกับเพื่อนๆ ด้วยครับ

   เพื่อนๆ ผมตอนนั้น เขาอ่าน หนังสือ พวก Ada, Python, Unix Shell, Kernel ,etc. พวกเราก็คิด จะอ่านไปทำไมเยอะแยะ เคยคุยกัน มันบอกว่า เอาไว้เขียนโปรแกรม คุมระบบอีกที ดูแลเองหมด เหนือยตาย แล้วพวกมัน ก็อ่านพวก Security ระบบรักษาความปลอดภัยเยอะมาก และบางคน ก็เคย Hack ระบบ ออกไปนอกสถาบัน จนโดน ผู้ใหญ่เรียกคุยมาแล้ว แต่ตอนนั้น มันได้รับเชิญ ให้ไปดูแลระบบ อ้่าว งง สิครับ

   จากข้างต้นเล่ามาให้สนใจเล่นๆ ครับ ไม่ได้ลงลึกอะไรนัก แต่ หากคุณเห็นคนกำลังถือ หนังสือ Python,Ruby, C for Unix ทั้งๆ ที่เพื่อนๆ ก็ใช้ Windows กัน ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า เฮ้ยเพื่อน จะไป Hack ใครเขาหรือเปล่า? ลองถามมันดูว่า เขียนโปรแกรม สคริปต์พวกนี้บนไหน Windows หรือ  Unix หากมันบอกว่า ไม่ใช่บน Windows มีลุ้นครับ เขาน่าจะเก่ง กว่าที่คุณรู้จักเขา เพราะคนธรรมดาๆ ที่ไหน จะไปนั่งเล่น พวก UNIX ขณะที่ Windows กดๆ จิ้มๆ ก็มันแล้ว ว่าไหม? ...ฮ่ะๆๆๆๆ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)




Friday, October 11, 2013

คนไอที แมร่งคุยยาก ลำบากจะคุยแล้วก็คุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง

สวัสดีครับ

     วันนี้ขอคุยเรื่องที่ ติดใจมานานพอควร เมื่อ พวกเราส่วนมาก มักจะเคยได้ยินมาว่า

  -คนไอทีมักจะคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง
   -คุยยาก
     -ไม่มีมนุษยสัมพันธ์

   หรือไม่ก็ทำงานกับคนหมู่มากไม่ได้

 
    ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ เป็นปัญหาการบริหารครับ จากการที่ อาชีพไอทีนั้น เป็นอาชีพที่มีความต้องการทักษะค่อนข้างสูง การคุยเรื่องเนื้องาน จึงต้องมีคนที่มีความรู้พอควร มาคุยด้วย คุณเคยเจอแบบนี้หรือเปล่า

    -หัวหน้างาน พยายาม สื่อสารกับคุณว่า เขาต้องการอะไร อย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนชี้นิ้ว แต่เขาหารู้ไม่ว่าในทางเทคนิค มันไม่ใช่แค่เรื่อง แนวคิด แต่มันมีเรื่อง การหาทางแก้ไขปัญหา หรือ Solution ซึ่งต้องใช้เวลา และ ต้องมีการตรวจสอบ

   -เมื่องานเกิดมีปัญหา เพราะไม่ได้ทำตามแนวทางการออบแบบซอฟต์แวร์ที่ควรทำ ปัญหาเกิดหัวหน้างานไม่ได้มาช่วยแก้ปัญหา เพียงแต่ถามอย่างเดียวว่า เสร็จยัง เร็วๆ หน่อย แบบนี้

  - หัวหน้างานส่วนใหญ่จะ ดื้อ อวดฉลาด ชอบทำเป็นรู้ในสิ่งที่ตัวเอง ไม่รู้อะไรเลย ทำให้คนที่ทำงานด้วยเอือมระอา จึงไม่อยากสื่อสารด้วย

  และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งท้ายที่สุดก็มาโยนปัญหาให้คนไอที อีักตามเคย เรียกว่า ซุกไว้ใต้พรม


 เชื่อผมครับ หากคนไอทีคนนั้น ไม่มีสันดาน บ้า เขาคุยกับใครรู้เรื่อง แน่นอน ทำไม? นั่นเพราะว่า คนไอที เรียนมาในชั้นเรียนเหมือนกัน กับคนคณะอื่นๆ เขาจะไม่เคยคุยกับเพื่อนเลยหรือ หากเขาืทำงานกลุ่มไม่ได้ เขาจะจบการทำรายงานได้อย่างไร ทีบ้านเขาก็มีพ่อมีแม่ เขาจะไม่คุยกันเลยหรือ

  ผมถึงบอกว่า ก่อนมาว่าคนไอที คนที่ทำงานด้วยควรดูตัวเองก่อน เปิดใจกว้าง ลองพูดคุยทำงาน อย่าอวดดี อวดรู้ อยากรู้ก็ถาม อย่ามาลองดี ตรงไหนไม่ถูกก็บอกกัน ไม่ใช่ตีกันไว้ก่อนว่า ไอทีแมร่งคุยยากแบบนี้ ดังนั้น พวกคุณนั่นล่ะ พิจารณาตัวเองเสียก่อนครับ

   ระดับหัวหน้างาน หากคุยกับคนไอที ไม่ได้ ผมว่าคุณต้องกลับไปเรียนบริหารใหม่ เพราะในสาขาการบริหาร เขาสอนให้คุณทำงานได้กับคนทุกรูปแบบไม่ใช่หรือ?

   ระดับผู้บริหารระดับสูง การพิสจน้์ูว่าคุณเจ๋งไหม มีวิสัยทัศน์หรือไม่ ต้อง พิสูจน์โดยการบริหารไอทีครับไม่ใช่ไปวางกฎเหล็ก แต่เป็นเรื่องทำงานกับเขาได้ คนไอทีมีนิสัย คือ รักสงบ ชอบค้นคว้าและเรียนรู้ รับผิดชอบ ชอบการท้าทาย เป็นคนชอบตั้งคำถามบ้าง แต่ก็ตอบสิครับ จบ อยากให้ทำอะไร ก็พูดกันสบายๆ ก็จบ อย่าตั้งแง่เท่านี้เองครับ

   ผู้บริหารยังควร มีนโยบายในการบริหารไอที ลงมาให้หัวหน้างานด้วยเพื่อให้ทำงานเป็น ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว ตัวเองไม่เคยมีแผนงานจะทำอะไร พอถึงเวลามาเร่งไอทีแบบนี้ใช่หรือ

    หลายคนที่ทำบริษัทพัฒนาโปรแกรม เล็กๆ จะไม่ค่อยมีการจัดระบบการทำงาน ทำให้มีงานการเขียนโปรแกรมที่เร่งตลอดเวลา ทั้งที่จัดระบียบได้ จัดได้จริงไหม จริงสิครับ เพราะบริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่ๆ หรือ เล็กๆ แต่บริหารงานเป็นเขามีการวางแผนเป็นระบบครับ แล้วมันทำให้การรับงาน ไม่้น้อยกว่าเดิม หรือมากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลงอีกด้วย

     ผมเคยอ่านบทความในเน็ต บางเรื่องเรื่อง การที่คนไอทีลาออกไปทำงานทีอื่น แล้วให้คนอื่นมาเอางานคนที่ลาออกไปทำแทน เอางานคนที่ลาออกมาทำ เพิ่มอีกหลายพัน แต่ เจ้าของแมร่งประหยัดเงินเดือนของคนที่ลาออกไปเป็นหมื่นๆ  เหมือนเขาว่าฉลาดเหลือเกิน แต่ผมว่ามันน่าละอายครับ
  จะเห็นว่าในวงการต่างๆ น่ะ หากมองแต่ข้อเสีย มันหาได้ทั้งนั้นล่ะ เพียงแต่สายงานไอทีจะค่อนข้างโดดเด่นันในยุคนี้ ยุคหน้ายิ่งล้ำหน้า คนดังระดับโลกยังหันมาเรียนเขียนโปรแกรมแล้วก็แล้วกัน ดังนั้น อาจจะโดนหมั่นไส้ได้ง่าย เลยโดนคนต่อว่ามากหน่อย

     สรุปทางที่ดีที่สุึดคือเราควรให้โอกาสกันและกันให้มากๆ ครับ อย่าด่วนสรุปครับ อย่าฟังแล้วสักแต่เชื่อ เชือผมเถอะครับ ไม่ได้โม้...


สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)

Thursday, October 10, 2013

เรียนรู้ การเขียนโปรแกรม C/C++ เริ่มอย่างไร? ตามคลิปไปเลยครับ

สวัสดีครับ

  และนี่คือ การเริ่มต้นเขียน ภาษา C/C++ ที่คลาสิคที่สุดในโลก ทำไม?


สนุกกับการเขียนโปรแกรมนะครับ ทุกท่าน

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)
   

Wednesday, October 9, 2013

ช้าไปแล้ว ช้าเกินกว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่เก่งได้ คนไอทีหลายคนคิดแบบนี้

สวัสดีครับ

   สมัยผมเรียน ชั้นมัธยม จะได้ข่าวว่า นักเรียนไทยไปได้เหรียญทองแดง คอมพิวเตอร์โอลิมปิก จากการแข่งขันระดับโลก เขาอายุพอๆ กับผม และจริงๆ แล้ว เราได้เรียนปริญญาตรี ในสถาบันเดียวกันในภายหลังอีกด้วย เพียงแต่ ผมรู้ว่าเขาเป็นใคร ขณะที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ จำเขาไม่ได้ 

    สมัยนั้นการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ เพราะยังมีข้อจำกัดเรื่อง ราคาเครื่อง ซึ่งคอมพิวเตอร์  PC ตั้งโต๊ะ ราคาขั้นต้นนี่ ก็ ราวๆ 3-4 หมื่นกว่าบาท ตอนนั้น Harddisk  700 M. นี่ ขอโทษนะครับ โคตรเท่  เด็กๆ สมัยนี้ ได้ยินคงตกใจจนหล่นเก้าอี้... จะพอได้ไง แค่รูปถ่าย ก็เต็มไป 5 รอบแล้ว ตอนนั้นใครได้ใช้ Windows 3.0 นี่อย่างเท่ครับ 

     ใครที่ใช้ DOS เป็น และใช้คล่อง จะเป็นเทพในสายตาเพื่อนๆ DOS คืออะไร ใครไม่ทราบ มันคือระบบ ปฎิบัติการชนิดหนึ่งครับ ใช้ในการจัดการไฟล์ ระบบ เหมือน Windows นี่ล่ะ แต่ว่า เป็น command line หรือ ต้องเขียนคำสั่ง บอกให้คอมพิวเตอร์ เข้าใจว่า จะให้เขาทำอะไร ใครอยากเห็น DOS เป็นอย่างไร ลองดูใน google ได้ ผมเชื่อว่า บางคนเพิ่งได้ยิน คำว่า DOS ก็วันนนี้ล่ะ

     เพื่อนผมคนที่กล่าวข้างต้น เก่งจริงๆ เขาเขียนภาษาที่ใช้งานบนเน็ตได้ และ มันใช้งานได้จริง ในสมัยที่ อินเตอร์เน็ต เิพิ่งเข้ามาในไทยได้ไม่กี่ปี ยุคแรกของไทยเลยครับ ยังได้ดูแลระบบของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ตอนนี้ก็ไปทำงานเป็นระบบอาวุโส ในบริษัทระดับชาติเป็นที่เรียบร้อย 

    หลายๆ คนอาจจะมีเพื่อนๆ ที่เก่งแบบนี้ ซึ่งก็หลากหลายกันไป แต่ ความเก่งของเขานั้น ไม่ใช่เรื่องที่เราสร้างไม่ได้นะครับ นี่คือจุดที่ผมอยากจะเขียนในบทความนี้

   -คุณเคยรู้สึกไหมว่า ไม่อยากหัดเขียนโปรแกรม เพราะ ดูว่า มันคงไม่เก่งเท่าคนอื่น
   -หัดเขียนไปก็คง ไม่ทำงานกับเขาไม่ได้
   -ไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะคิดว่า เรามีความรู้ในการโปรแกรมน้อยเกินไป

   และอื่นๆ อีกมากไป

  บางคน คิดต่างออกไปอีกว่า การเขียนโปรแกรมมันยาก ยิ่งในไทยนี่ ลูกค้า ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการออกแบบ Software จะเอาโน่น นี่ นั่น ทำแล้วกลัวทำไม่จบ 

   แต่เขาอาจลืมไปว่า ลูกค้าจะยุ่งขนาดไหน มันก็คือ ประสบการณ์ครับ พอมากเข้า เราก็เจอมาหมดแล้วจะขนาดไหนก็รับไว้ และ หลายคนยังลืมไปว่า  โลกของการเขียนโปรแกรม มันคือการ Reuse ครับ

  Reuse ทั้งจากโปรแกรมเดิมที่ทำมาก่อน เอามาปัดฝุ่นได้ตลอด ปรับนั่น นี่ นิด ก็ใช้ใหม่ได้เลย แล้วมันก็ไม่ต้องไปแบกหาม มันแค่ Copy และ Paste จริงไหม ส่วนการทำ โปรแกรมระดับใหญ่ๆ แบบรับงาน อะไรพวกนี้ ความยากมันจะลดไปเรื่อยๆ ในเรื่อง การประดับประดา เช่นทำฟอร์ม แบบนั้น นี้ มีระบบนั่นนี่ จนเมื่อทำเสร็จ มันจะกลายเป็นมาตรฐานติดตัวเราไปเอง ไม่ยากอีกต่อไป แต่ ไอ้ที่ยากจริงๆ คือ การแก้ปัญหาของ งานที่ได้มา ในแบบ อัลกอริทึ่มต่างหากครับ โดยเฉพาะ หากมีเรื่อง ตัวเลขเข้ามา แต่มันก็ไม่ยาก หากเรา มีที่ปรึกษา หรือเราอาจถามจาก สังคมในเน็ตก็ได้ เอาเป็นว่า เชื่อผมครับ หากทำไปสักพัก ผ่านงาน ยากๆ ไม่เกิน 3-5 โครงการ ที่เหลือ ก็หวานหมูแล้ว ขอให้มันเป็น งานที่ท้่าทายหน่อยก็แล้วกัน

    ตัวผมเองผ่านการเผชิญการเขียนโค้ดมาแบบ ไม่มีหัวหน้างาน หรือ รุ่นพี่ ทำให้มีประสบการณ์ ตื่นเต้นตลอดเวลา ต้องคิดหา ทางออก ทางแก้ หรือ Solution เองค่อนข้างมาก เช่น ในสมัยที่ google ยังต๊อกต๋อย เด็กๆ เจ้านายเกิดอยาก จะโชว์ แผนที่บนเว็บ ทำให้ ผู้ดูงา่น ทึ่ง ต้องการให้ในแผ่นเพจเดียวกัน
กดบริเวณนี้ ไปที่นั่น กด อีกบริเวณไม่อีกที่ ผมคิดเอเอาไงดี จะใช้ Map หรือ มันยุ่งยาก ตอนนั้น ตัวช่วยทำเว็บยังหาได้น้อยมาก ดรีม วีพเวอร์ เหรอ ฝันไปเถอะ ผมเลยคิดหาวิธีอยู่พัก ก็ได้อะไรง่ายๆ สร้าง Table ขึ้นมาด้วย html ง่ายๆ แล้วพรางไม่ให้เห็น Border จากนั้น ให้ Cellpadding กับ Cellspacing เป็น 0
แล้วเรียกรูปขึ้นมา จัดหน้าให้อยู่ใน center จัด Tag <img src=""> คลุมรูปไว้ เรียบร้อยครับ สร้างความฮือฮาให้ ผู้มาดูงาน ได้พอควร ทั้งๆ ที่ผมใช้ สคริปต์ธรรมดาๆ นี่ล่ะ

   สมัยนั้นมันเป็นยุึดของการพึ่งตนเองค่อนข้างมากครับ แต่เราก็ไม่อยู่เฉย รู้จักตั้งคำถามนานาประการแล้วก็ ทดลองค้นคว้าเอง เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ตกเทรนด์ครับ ผ่านไปราวๆ 3 ปี กับการทำงาน ตอนนั้นเป็น Webmaster ให้หน่วยงาน ผมก็พบว่า ด้วยความที่เราศึกษาตลอดเวลา ทำให้ เราสามารถนำความรู้ทั้งที่เรียนมา แลกเปลี่ยนค้นคว้ามา ตอบสนองงานได้แทบทุกรูปแบบ คือ หายกลัว การมอบหมายงานใหม่ๆ ไปเอง เพราะเหมือนที่ผมบอกไว้ช่วงต้น มันจะยาก จะเยอะขนาดไหน วันหนึ่ง มันก็มีการวนกลับมาทีเดิม คือ ครบรอบ มันไม่มีมากกว่านั้นครับ 

    ผมก็ตกใจ เมื่อนึกว่า ตอนนี้ เราค่อนข้างชำนาญอะไรที่เกี่ยวกับ เว็บเป็นพิเศษแล้ว สิ่งเหล่านี้มาจากประสบการณ์ครับ

    หากน้องๆ ลองมาเทียบกับผม น้องๆ อาจจะคิดว่า หากเรื่องทำ เว็บ นี่คงสู้พี่เขาไม่ได้ แต่อย่าเชื่อแบบนั้นครับ วงการอินเตอร์เน็ตไทย เพิ่งมาบูมราวๆ ปี ค.ศ. 1995-96 นี่เอง ก็ถึงตอนนี้มันก็ 17 ปีแค่นั้น ในเวลาไม่ถึง 20 ปี แบบนี้ มันไม่ได้ทำให้ใคร เทพกว่าใครหรอกครับ เพียงแต่เราต้องพื็นฐานแน่นๆ หน่อย คำสั่ง <tag> สำคัญ ควรใช้ได้คล่อง แบบนี้ แต่อะไรที่ลึกไปกว่านั้น ก็เปิดคู่มือได้ ไม่ผิด ที่สำคัญควรรู้ว่า แก้โค้ดด้วย html พื้นฐานได้อย่างไร ต้องทำได้ครับ 

    อีกอย่าง คนที่ทำเว็บมา 17 ปี หากมีคนพูดแบบนี้ ต้องถามเขาว่า พี่ยังโค้ดเองไหม ส่วนมากหากเป็น ผุ้จัดการ หัวหน้างานไปแล้ว จะสั่งอย่างเดียว แต่ไม่ได้ทำแล้ว ซึ่งผมว่า มากกว่าครึ่ง ลืมการเขียนเว็บเพจไปแล้ว หรือ ทำได้ไม่คล่องแล้ว นี่คือ น่าเสียดายครับ

   เพราะการทำเว็บ มันมีอะไรมากมายครับ มีเรื่องให้ศึกษาได้ไม่รู้จบครับ

  จึงต้องขอบอกว่า การเขียนโปรแกรม เรียนทันกันได้ครับ เพราะคนที่เรียนมาก่อน หากหยุด ห่างจากวงการและไม่ โค้ดอย่างสม่ำเสมอ กรณีนี้คือ ไม่ควรเกิน 6 เืดือน มักจะลืมเลือน ดังนั้น คนที่หยุดไปแล้ว สิ่งที่ยังอยู่คือ ประสบการณ์ ส่วนทักษะการโค้ด ต้องทำประจำครับ เราจึงสามารถหัดเขียนโปรแกรมได้ เริ่มเมื่อใดก็ได้ และสามารถเก่งได้ ใน 1-2 ปี ครับผม เชื่อผม คุณทำได้ครับ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ 




     

เริ่มบทความแรก บนโน้ตบุ้คเครื่องเก่า สวัสดีครับ :0)

สวัสดีครับ

    ผมทำบล็อกแห่งนี้ แน่ล่ะไม่ใช่บล็อกหลังแรก แม้กระนั้นผมก็ยังรู้สึกตื่นเต้น เหมือนเช่นทุกครั้งที่เปิดบล็อกหลังใหม่ เป้าหมายลึกๆ ที่อยากทำบล็อกซึ่งให้ความรู้ผู้คน มียอดเข้าชมสักหมื่นครั้งให้ได้ เมื่อหลายปีก่อน ได้ทำสำเร็จไปแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มจะเข้าหลัก แสนครั้ง และมันกลายเป็น เกินความฝันไปมากเหลือเกิน เมื่อมองเห็นศักยภาพของ Blog ว่า มันมีคุณูปการต่อการถ่ายทอดความรู้เป็นอย่างยิ่ง ทำไม? 
   
   นั่นเพราะคนถ่ายทอดก็ทำงานง่าย เปิดบล็อก แล้วเขียน เสร็จแล้ว ก็เผยแพร่ คนที่มาอ่านก็เปิด อ่าน แล้วก็ จบ นี่คือข้อได้เปรียบของ Blog 

    ผมจึงได้ตั้งใจไว้ลึกๆ ว่า ต่อไปผมจะเป็นหนึ่งใน บล็อกเกอร์ คนธรรมดา ที่เป็นเจ้าของ Blogs ต่างๆ ที่มียอดรวม การเข้าอ่าน มากกว่า 1 ล้านครั้งให้จงได้ :0) ฝันให้ไกลไปให้ถึงครับ

    การจัดทำบล็อกแห่งนี้ขึ้น ก็เพราะว่า ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ที่พอมีอยู่บ้าง กว่า 16 ปี (พ.ศ.2556) ในเรื่อง การเป็นผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ (จากยุคเริ่มแรก ที่การทำงานส่วนมากมาจาก การเรียนรู้่เอง และ เรียนแบบครูพักลักจำ เป็นส่วนใหญ่), การเขียนโปรแกรม นานาภาษา (ทั้งภาษาเก่าและใหม่, ทั้งบน Windows, บน DOS และ Unix อีกเล็กน้อย), การดูแลบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์, พัฒนาเว็บไซต์ (ทั้งแบบในองค์กร และ ติดต่อจัดทำเองทั้งหมด แบบนอกองค์กร), การจัดการเว็บไซต์แบบ Interactive ทั้งโดยการ ใช้ สคริปต์ เช่น Javascript, PHP, Html เป็นต้น ตลอดจน การใช้ สคริปต์ในการจัดการฐานข้อมูล ที่เรียกว่า Web Database Programming เป็นต้น รวมไปถึง ภาษาโปรแกรมมิ่ง อย่าง C, C++, Basic และอื่นๆ อีกด้วย

     ผมต้องการถ่ายทอดความรู้ สิ่งที่พบมา ฝากไว้ให้สังคมไทย และ โลก (ถ้าต่อไป การแปลภาษามันสุดยอดกว่าตอนนี้ อย่างไรก็ขอบคุณ Google Translator ครับ..) ซึ่งเชื่อว่า มีด้านที่เป็นประโยชน์มากอยู่
เพียงแต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ผมไม่ได้ว่า อวด ว่าผมเก่งอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ ต้องเข้าใจไว้ก่อนเลย

     อาจเรียกว่าเป็นการเล่าเรื่อง หรือการเล่าสู่กันฟังเสียมากกว่า

     หวังว่าคงได้รับการตอบรับจากผู้อ่าน เหมือนเช่นเคย

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)