Friday, October 11, 2013

คนไอที แมร่งคุยยาก ลำบากจะคุยแล้วก็คุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง

สวัสดีครับ

     วันนี้ขอคุยเรื่องที่ ติดใจมานานพอควร เมื่อ พวกเราส่วนมาก มักจะเคยได้ยินมาว่า

  -คนไอทีมักจะคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง
   -คุยยาก
     -ไม่มีมนุษยสัมพันธ์

   หรือไม่ก็ทำงานกับคนหมู่มากไม่ได้

 
    ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ เป็นปัญหาการบริหารครับ จากการที่ อาชีพไอทีนั้น เป็นอาชีพที่มีความต้องการทักษะค่อนข้างสูง การคุยเรื่องเนื้องาน จึงต้องมีคนที่มีความรู้พอควร มาคุยด้วย คุณเคยเจอแบบนี้หรือเปล่า

    -หัวหน้างาน พยายาม สื่อสารกับคุณว่า เขาต้องการอะไร อย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนชี้นิ้ว แต่เขาหารู้ไม่ว่าในทางเทคนิค มันไม่ใช่แค่เรื่อง แนวคิด แต่มันมีเรื่อง การหาทางแก้ไขปัญหา หรือ Solution ซึ่งต้องใช้เวลา และ ต้องมีการตรวจสอบ

   -เมื่องานเกิดมีปัญหา เพราะไม่ได้ทำตามแนวทางการออบแบบซอฟต์แวร์ที่ควรทำ ปัญหาเกิดหัวหน้างานไม่ได้มาช่วยแก้ปัญหา เพียงแต่ถามอย่างเดียวว่า เสร็จยัง เร็วๆ หน่อย แบบนี้

  - หัวหน้างานส่วนใหญ่จะ ดื้อ อวดฉลาด ชอบทำเป็นรู้ในสิ่งที่ตัวเอง ไม่รู้อะไรเลย ทำให้คนที่ทำงานด้วยเอือมระอา จึงไม่อยากสื่อสารด้วย

  และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งท้ายที่สุดก็มาโยนปัญหาให้คนไอที อีักตามเคย เรียกว่า ซุกไว้ใต้พรม


 เชื่อผมครับ หากคนไอทีคนนั้น ไม่มีสันดาน บ้า เขาคุยกับใครรู้เรื่อง แน่นอน ทำไม? นั่นเพราะว่า คนไอที เรียนมาในชั้นเรียนเหมือนกัน กับคนคณะอื่นๆ เขาจะไม่เคยคุยกับเพื่อนเลยหรือ หากเขาืทำงานกลุ่มไม่ได้ เขาจะจบการทำรายงานได้อย่างไร ทีบ้านเขาก็มีพ่อมีแม่ เขาจะไม่คุยกันเลยหรือ

  ผมถึงบอกว่า ก่อนมาว่าคนไอที คนที่ทำงานด้วยควรดูตัวเองก่อน เปิดใจกว้าง ลองพูดคุยทำงาน อย่าอวดดี อวดรู้ อยากรู้ก็ถาม อย่ามาลองดี ตรงไหนไม่ถูกก็บอกกัน ไม่ใช่ตีกันไว้ก่อนว่า ไอทีแมร่งคุยยากแบบนี้ ดังนั้น พวกคุณนั่นล่ะ พิจารณาตัวเองเสียก่อนครับ

   ระดับหัวหน้างาน หากคุยกับคนไอที ไม่ได้ ผมว่าคุณต้องกลับไปเรียนบริหารใหม่ เพราะในสาขาการบริหาร เขาสอนให้คุณทำงานได้กับคนทุกรูปแบบไม่ใช่หรือ?

   ระดับผู้บริหารระดับสูง การพิสจน้์ูว่าคุณเจ๋งไหม มีวิสัยทัศน์หรือไม่ ต้อง พิสูจน์โดยการบริหารไอทีครับไม่ใช่ไปวางกฎเหล็ก แต่เป็นเรื่องทำงานกับเขาได้ คนไอทีมีนิสัย คือ รักสงบ ชอบค้นคว้าและเรียนรู้ รับผิดชอบ ชอบการท้าทาย เป็นคนชอบตั้งคำถามบ้าง แต่ก็ตอบสิครับ จบ อยากให้ทำอะไร ก็พูดกันสบายๆ ก็จบ อย่าตั้งแง่เท่านี้เองครับ

   ผู้บริหารยังควร มีนโยบายในการบริหารไอที ลงมาให้หัวหน้างานด้วยเพื่อให้ทำงานเป็น ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว ตัวเองไม่เคยมีแผนงานจะทำอะไร พอถึงเวลามาเร่งไอทีแบบนี้ใช่หรือ

    หลายคนที่ทำบริษัทพัฒนาโปรแกรม เล็กๆ จะไม่ค่อยมีการจัดระบบการทำงาน ทำให้มีงานการเขียนโปรแกรมที่เร่งตลอดเวลา ทั้งที่จัดระบียบได้ จัดได้จริงไหม จริงสิครับ เพราะบริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่ๆ หรือ เล็กๆ แต่บริหารงานเป็นเขามีการวางแผนเป็นระบบครับ แล้วมันทำให้การรับงาน ไม่้น้อยกว่าเดิม หรือมากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลงอีกด้วย

     ผมเคยอ่านบทความในเน็ต บางเรื่องเรื่อง การที่คนไอทีลาออกไปทำงานทีอื่น แล้วให้คนอื่นมาเอางานคนที่ลาออกไปทำแทน เอางานคนที่ลาออกมาทำ เพิ่มอีกหลายพัน แต่ เจ้าของแมร่งประหยัดเงินเดือนของคนที่ลาออกไปเป็นหมื่นๆ  เหมือนเขาว่าฉลาดเหลือเกิน แต่ผมว่ามันน่าละอายครับ
  จะเห็นว่าในวงการต่างๆ น่ะ หากมองแต่ข้อเสีย มันหาได้ทั้งนั้นล่ะ เพียงแต่สายงานไอทีจะค่อนข้างโดดเด่นันในยุคนี้ ยุคหน้ายิ่งล้ำหน้า คนดังระดับโลกยังหันมาเรียนเขียนโปรแกรมแล้วก็แล้วกัน ดังนั้น อาจจะโดนหมั่นไส้ได้ง่าย เลยโดนคนต่อว่ามากหน่อย

     สรุปทางที่ดีที่สุึดคือเราควรให้โอกาสกันและกันให้มากๆ ครับ อย่าด่วนสรุปครับ อย่าฟังแล้วสักแต่เชื่อ เชือผมเถอะครับ ไม่ได้โม้...


สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)

No comments:

Post a Comment